ด้วยสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างบ้านเรา หลายคนก็อาจนึกอยากนอนแก้ผ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป ซึ่งหากสามารถทำได้ก็น่าจะลองทำดู เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การนอนแก้ผ้านั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด การนอนหลับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ หากนอนหลับไม่สนิทหรือนอนน้อยเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นสิ่งที่หากทำได้ก็น่าจะทำ หนึ่งในนั้นก็คือการ นอนแก้ผ้า
การนอนแก้ผ้าทำให้อวัยวะในที่ลับของทั้งชายและหญิงได้ผ่อนคลาย เพราะเสื้อผ้าหรือชุดนอนที่เราสวมใส่จะทำให้ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากมีเหงื่อออกจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้แบคทีเรียและยีสต์เจริญเติบโต การนอนแก้ผ้าจึงช่วยลดการหมักหมมของความชื้นและเชื้อโรคได้
จากรายงานของฮัฟฟิงตันโพสต์ระบุว่า การนอนแก้ผ้าจะทำให้สารประเภทฮอร์โมนความเครียดที่เรียกกันว่า คอร์ติซอล (Cortisol) มีปริมาณลดลง เนื่องจากเป็นฮอร์โมนซึ่งจะหลั่งออกมาเมื่อทำกิจกรรมที่อยู่ภายใต้ความกดดัน การนอนแก้ผ้าจึงช่วยลดความตึงเครียด และทำให้สามารถหลับได้สนิทขึ้น ร่างกายพักผ่อนได้เต็มที่เมื่อฮอร์โมนคอร์ติซอลลดต่ำสุด (ระหว่าง 22.00-02.00 น.)
การนอนแก้ผ้าทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเมื่อตื่นนอน เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปภายใต้เสื้อผ้าจะไปสกัดกั้นกระบวนการหลั่งสารเมลาโทนิน และฮอร์โมนต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัยของร่างกาย การนอนแก้ผ้าทำให้ร่างกายไม่อุ่นเกินไปจึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุขได้ดีขึ้น
จากผลการสำรวจของมูลนิธิการนอนแห่งชาติ (The National Sleep Foundation: NSF) ซึ่งสำรวจพฤติกรรมการนอนของผู้คนในหลายประเทศ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คนพบว่า การนอนแก้ผ้ายังช่วยลดความกังวลที่เป็นสาเหตุให้รับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย จึงเป็นการลดการสะสมของไขมันตามร่างกายได้อีกด้วย
นอกจากนี้หากคู่รักนอนแก้ผ้าร่วมเตียงกันทุกคืน จะช่วยให้เพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดและอารมณ์สเน่หาต่อกันมากขึ้น จึงมีโอกาสที่จะทำให้เพิ่มความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น